วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

第 8 課 : 「気合」と「気が合う」って同じじゃねぇ!?

        สวัสดีค่าา วันนี้ได้ げるげるก็ได้ฤกษ์มาอัพบล็อคที่ดองไว้ซักที รู้สึกเหนื่อยทุกอาทิตย์เลยอ่า งานก็เยอะ พรีเซนต์ก็เยอะ ไม่รู้จะผ่านเดือนนี้ไปได้อย่างไร งือออT^T เอาเป็นว่า วันนี้ขอนำเสนอคำว่า 「気合」กับ「気が合う」ค่ะ
        สำหรับเพื่อนๆที่รู้อยู่เเล้ว ก็ถือเป็นการทบทวนละกันนะคะ เเต่ げるげるเอง ยอมรับว่าพึ่งรู้ว่า2คำนี้ความหมายต่างกันค่ะ ปกติก็เจอเเล้วก็ใช้คำว่า気が合うบ่อยๆ ที่เเปลว่าเข้ากันได้ดีค่ะ เเต่ไม่รู้ว่าพอตัดคำช่วยออกไปจะทำให้ความหมายต่างออกไปได้ขนาดนี้  คำว่า 気合จริงๆก็เคยเจอบ้างนะคะ เเต่ก็ชอบเเปลเอาเองว่ามันหมายถึงเข้ากันได้ดีมาตลอด ไม่รู้ว่าเเถไปอย่างนั้นได้ไง ฮ่าาา เอาเป็นว่าเรามาเรียนรู้ความหมายเเละความเเตกต่างของคำ2คำนี้กันเลยดีกว่าค่าา เย่!!

เริ่มเเรก มาเรียนรู้คำว่า 「気が合う」 กันก่อนเลยดีกว่าค่ะ ความหมายของคำนี้ก็คือ
「他の人と気持ちが通じる状態。また、話や考え方や趣味が合うというような意味。
ง่ายๆก็คือ "เข้ากันได้ดี" ค่ะ ตัวอย่างประโยคที่ げるげる คิดมาก็เช่น

君とは気が合うね!
รู้สึกเข้ากับเธอได้ดีจัง

げるげるちゃんと料理の話や音楽の話をしたら、気が合いそう!
พอได้คุยเรื่องเพลง เรื่องอาหารกับげるげるก็รู้สึกว่าน่าจะเข้ากันได้ดี

気が合わない人にあわせようとすると疲れます。
การพยายามปรับตัวให้เข้ากับคนที่ยังไงก็เข้ากันไม่ได้มันช่างเหนื่อยจริงๆ

関西の人とのほうが気が合うと思うから、関西へ留学に行こうと決めた。
เพราะคิดว่านิสัยเข้าได้ดีกับคนคันไซมากกว่า ก็เลยตัดสินใจไปเเลกเปลี่ยนที่คันไซ


เอาล่ะค่ะ มาเรียนรู้อีกคำกันเลยดีกว่า นั่นคือคำว่า 「気合」นั่นเองงง ความหมายของคำนี้ก็คือ
「物事に向かう気持ちの勢い。強い気持ちを持って対応すること。
ซึ่งก็คือ "Fighting spirit หรือ จิตใจฮึดสู้" คำนี้ที่เราจะเห็นได้บ่อยๆ คือมักใช้กับ ...を入れる
เช่น
次は決勝だ。気合を入れていけー!
ต่อไปเป็นรอบชิงชนะเลิศเเล้ว มาฮึดสู้ไปให้ถึงที่สุดกันดีกว่า

よし、気合を入れて頑張る!
เอาล่ะ ฉันจะฮึดสู้เเล้วนะ

気合を入れて試合に臨む。
รวมพลังฮึดสู้เเล้วไปเข้าร่วมเเข่งขัน

ตัวอย่างอื่นๆก็เช่น
気合でこの仕事を終わらす。
ฉันจะฮึดสู้เเล้วทำงานนี้ให้สำเร็จ

今日は彼がいるから気合が入る。
วันนี้มีเเฟนมาคอยอยู่ข้างๆ เลยรู้สึกมีกำลังใจฮึดสู้


         ส่วนอันนี้ ไม่ได้สำคัญมาก เเต่เป็นบทสนทนาที่เป็นที่มาให้  げるげる เลือกทำเรื่องนี้ค่ะ คือ げるげるไปเเอบฟังคนญี่ปุ่น2คนพ่อลูกเเอบคุยกันในรถไฟฟ้า ฮ่าาา รู้สึกเผือกมาก คือตอนฟังก็รู้สึกเอะใจว่าทำไมคนพ่อพูด 気合 เกี่ยวอะไรกับเข้ากันไม่เข้ากัน ตอนนั้นก็คิดว่าเค้าละ เฉยๆเเบบภาษาพูดทั่วไปที่มักละกริยาช่วย พอกลับมาบ้านก็เลยลองถามเพื่อนญีปุ่นว่าคืออะไร ก็เลย อ๋ออออ มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

父:ひろし、最近勉強頑張ってるのか?
ฮิโระชิ ช่วงนี้ตั้งใจเรียนรึเปล่า
ひろし:い、いや、最近やる気がおきへんねんな(汗)
มะ ไม่เลย ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์อ่านหนังสือเท่าไหร่
父:気合が足らんわ!
ไม่มีพลังฮึดสู้เอาซะเลย


เป็นไงคะเพื่อนๆ บล็อคของ げるげるครั้งนี้ หวังว่าจะได้เรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ สำหรับตัว げるげる รู้สึกช็อคมากๆค่ะที่รู้ว่าความหมายมันต่างกันขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณมากที่ได้เจอ2พ่อลูกบนรถไฟฟ้า  จากบล็อคครั้งนี้ก็ทำให้ได้เรียนรู้ว่า การเผือกก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันค่ะ ฮ่าาา หลังจากที่ได้รู้ความหมายที่เเท้จริง ช่วงนี้ げるげる ก็ลองเอาไปใช้กับเพื่อนคนญี่ปุ่นบ้างค่ะ เช่นที่ใช้บ่อยๆคือ 気合を入れて頑張ってねー ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีนะคะ เพื่อนคนญี่ปุ่นก็บอกว่าใช้ถูกเเล้ว ก็รู้สึกดีใจค่ะ ได้เรียนคำที่ยาวกว่า 頑張ってねー ขึ้นมานิดนึง ฮ่าาา หวังว่าเพื่อนๆจะลองไปใช้กันบ้างนะคะ เเล้วเจอกันใหม่ จ๊วฟฟฟฟ



第 7 課 : I CAN CHANGE! (NEW ME?)

กลับมาเจอกับげるげるอีกครั้งค่ะ ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลามาอัพบล็อคเลย รู้สึกเสียจายยTT^TT วันนี้ก็ขอมาอัพการเล่าเรื่องอันสุดท้ายท้ายสุด ไปดูกันเลยค่าาา
 この間漫画を読んでましたね。(はい)それはどんな話かっていうとね (はい) 登場人物は一匹の犬と一人の赤ちゃんがいます (はい) 最初は犬が寝ていますね (はい) で、赤ちゃんはなんか、その犬に乗って遊ぼうとしてるみたいで、犬のところにはいはいして近づいてきてます。 (ああ、はい)  すると、あと一歩くらいだけでその犬が突然目を覚ましてしまって、えー、赤ちゃんと顔を合わせてしまいましたよ (へえ笑) そう、赤ちゃんはとてもびっくりして、(はい)「しまった」っていう顔をして、(はは) 「どうしよっかな」って、(うんうん) 「もう乗れなくなったな」って思ってるんで、(はい) それで、赤ちゃんは「あ、そうだ!尻尾の方から乗ろう!」って決めて (はい) 犬の周りをぐるっと一周はいはいで回ってきました。(はいはい) でも、回ってくると、えー、またまた犬と顔を合わせてしまいました (へっ笑) 「あれ?回り込んだはずなのに、また気づかれたんだ!」って赤ちゃんはびっくりしましたね (はい)で、犬もびっくりしましたよ (へえ、なんで?) なぜかっていうと、(はい)赤ちゃんが回り込んでいる時に、(はい)犬は赤ちゃんと遊びたくないから、寝てる向きを変えて逃げ切ろうとしたからです。(ああ、なるほど) はい、それで、また赤ちゃんと会うとは思わなかったんですよね (そうですね笑 二人ともショックですよね笑)そうそう、ん。。っていうのを読みました (はい、分かりました。面白かったです) んー、そうかな笑
 内省
รอบนี้ ถ้าเทียบกับรอบแรกสุดที่เล่าไป รู้สึกว่าดีขึ้นพอสมควรเลยค่ะ เพราะรอบแรกไม่เข้าใจเนื้อหาเลย แต่รอบนี้ เข้าใจเนื้อหาแจ่มแจ้งหลังจากที่ใช้เวลาทุ่มเทให้กับเรื่องนี้มาหลายสัปดาห์ ฮ่าาา ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดคือสังเกตได้ว่ารู้คำศัพท์และสำนวนมากขึ้น เช่นคำว่า คลานอ้อมมา   มีการใช้擬態語คือぐるっとแบบคนญี่ปุ่น มีการใส่มุมมองผู้พูดให้ชัดเจนมากขึ้นพวก てくる  มีการใส่ てしまうเสริมความรู้สึกให้กับเนื้อเรื่อง อีกทั้งยังมีการเกริ่น การจบเสริมเข้ามา และที่สำคัญคือมีการเปิดโอกาส เว้นช่วงให้ผู้ฟังได้แทรกあいづちแล้วเราก็พูดตอบรับที่เขาส่งมาด้วยค่ะ แต่เวลาพูดก็ยังมีตะกุกตะกักบ้าง ยังไม่สามารถเล่าเรื่องให้ดูเป็นธรรมชาติได้อย่างคนญี่ปุ่น ก็คิดว่าจะลองพยายามนำสิ่งที่เรียนมาไปลองเล่าเรื่องอื่นๆนอกชั้นเรียนให้เพื่อนคนไทยหรือคนญี่ปุ่นฟังดูค่ะ น่าจะช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
เป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อนๆว่าげるげる พัฒนาขึ้นบ้างรึป่าว T_T ยังไงก็มาสู้กันต่อไปนะคะ WE CAN CHANGE! きっと!แล้วเจอกันใหม่ค่าาา จ๊วฟฟฟ

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

第 6 課 : I CAN CHANGE! (I see)

 หลังจากบทความที่แล้วที่ทิ้งท้ายไว้ว่าตัวเองต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน รอบนี้ げるげる ก็ไปปรับปรุงมาแล้วค่ะ รู้สึกภาษาดูดีขึ้น เพราะสำนวนนี่เอามาจากเวอร์ชั่นคนญี่ปุ่นทั้งนั้น ฮ่าาาา เอาเป็นว่ามาดูวิวัฒนาการ การเล่าเรื่องของ げるげる รอบปรับปรุงกันเลยดีกว่าค่ะ

  四コマ漫画で、登場人物は一人の赤ちゃんと一匹の犬です。まず、一コマ目で、犬が寝ています。赤ちゃんがその犬の背中に乗って遊ぼうと思っています。続いて、二コマ目では、赤ちゃんが犬の前へハイハイで忍び寄ってきましたが、あと一歩のところで、犬が突然目を覚ましてしまいました。「しまった」と赤ちゃんはびっくりしました。三コマ目では、犬と顔を合わせてしまって乗れなくなったので、「ああ、どうしよう~どうやったら気づかれないのかな…あ、今度は犬の尻尾の方だったらきっと乗れるでしょ!」と赤ちゃんはそう思って、犬の後ろに回り込むことにしました。すると、四コマ目では、尻尾の方に回り込んだはずなのに、またまた犬と顔を合わせてしまいました。赤ちゃんは大ショック!実は犬は静かに寝たがるし、赤ちゃんと遊びたがらないので、寝ている向きを変えて逃げきったつもりでした。犬も大変びっくりしたでしょうね。赤ちゃんも犬もお互いから逃げたくても逃げられないというのがこの漫画のオチです。
内省
 
คิดว่ารอบแรกที่ได้อธิบายไป แม้จะมีให้คิดและเล่าเป็นภาษาไทยก่อน แต่ก็ทำได้ไม่ดี เพราะดูรูปแล้วไม่เข้าใจเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่พอได้ฟังอาจารย์และความคิดจากเพื่อนๆรอบข้าง ก็ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น เช่น จริงๆแล้ว เด็กทารกคลานเป็นวงกลมรอบๆเพื่อต้องการอ้อมไปขี่ตัวหมาจากด้านหลัง ซึ่งในรูปก็มีคำใบ้เป็นหาง แต่ในรอบแรกที่อธิบาย นอกจากไม่รู้เรื่องแล้วก็ยังไม่ค่อยรู้คำศัพท์หลายๆคำ เช่นคำว่าคลาน ซึ่งใช้คำว่าはいながらไป  แต่จริงๆควรใช้คำว่า はいはいหรือคำว่าคลานอ้อมไปเป็นวงรอบก็ไม่รู้ รอบแรกเลยใช้คำว่า走るซึ่งก็คิดว่าผิดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรแทนดี พอได้มาดูเวอร์ชั่นที่คนญี่ปุ่นเล่าก็ทำให้ได้เรียนรู้ศัพท์มากมาย เช่น犬の周りを一周ハイハイで回るหรือ回り込む อีกเรื่องที่รู้สึกว่าได้เรียนรู้เป็นอย่างมากคือการที่คนญี่ปุ่นจะนิยมใช้รูปてしまう และมีการแสดงมุมมองของตัวละครชัดเจนผ่านการใช้てきる/ていく ซึ่งตัวเองไม่ได้ใช้รูปเหล่านี้ไปเลยในการเล่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจบเรื่อง ที่คนญี่ปุ่นมักจบด้วยการสรุปเช่นという話です หรืออาจใช้การแสดงความคิดเห็นหรือข้อคิดที่ได้จากเรื่องก็ได้ค่ะ ซึ่งคิดว่าทำให้ช่วยจบเนื้อเรื่องได้ไม่ห้วนดีค่ะ จากการได้อ่านวิธีการเล่าเรื่องแบบคนญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็คิดว่าได้เรียนรู้ทั้งคำศัพท์มากมาย และเทคนิคในการเล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆ สำหรับการเล่าเรื่องในครั้งหน้าไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ก็คิดว่าจะลองไปประยุกต์ใช้ดูค่ะ
เจอกันใหม่บทความหน้านะค๊าาา จ๊วฟฟฟ

第 5 課 : I CAN CHANGE! (By myself)


       สวัสดีค่าา กลับมาเจอกับ         げるげる อีกครั้งนะคะ ห่างหายไปน๊านนาน นี่เพราะอาจารย์สุดสวยผลักดัน กระตุ้นให้มาอัพ เลยได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง วันนี้ก็จะมาอัพการเล่าเรื่อง あかちゃん ที่ げるげる ทำไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนู้นค่ะ อันนี้เป็นเวอร์ชั่นเเรกที่ยังไม่ได้เรียนรู้ศัพท์ใดๆทั้งสิ้นค่ะ


   まずは犬と赤ちゃんがいます。犬は寝ていますね。(はい)そして、え。。その赤ちゃんははいながら、犬のところに近づいています。(はい)でも、赤ちゃんの頭の中に、犬に乗っている絵が見えます。(犬に乗って?犬は赤ちゃんよりサイズが大きいですか?)はい、そうですね。でも、あんまり変わりません。たぶん赤ちゃんは犬に乗りたいと思っているようです。(ああ、はいはい。)次は突然犬が起きて、すると、偶然赤ちゃんと目が合ってます。(へえー。)次はなぜかわからないが、犬がなんか怒ってるみたいな顔をしてます。(うん) そして、赤ちゃんは他のところに逃げ出してます(えっ?)ん、走ってます。(走ってる?へえ、すごい) まあ走るっていうか、、(えー、はし) なんか速くはってますね.で、赤ちゃんの頭の中に犬の尻尾を考えてます。(犬の尻尾?) はい、しっぽね。 (ああ) で、はっていくと、また犬と会いました。また目と合ってます。(へえ) なんか一周回ってから、もう一回犬と会いました。(へえ) そして、赤ちゃんはびっくりした顔をしてます。(はい) たぶん犬と会うとは思わなかったかもです。(それで?)以上です (へえ、以上?わかりましたー
内省
...ค่ะ ก็รู้สึกอายเล็กน้อยที่ต้องบรรยายความกากให้พี่ๆ TA ฟัง ฮ่าา จำได้ว่าตอนนั้นได้รูปมาก็รู้สึก ไม่เข้าใจมากๆเลยค่ะ ว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร ต้องการสื่ออะไร โดยเฉพาะที่เด็กคิดภาพหางขึ้นมา ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวยังไง ก็เลยเล่าไปเเบบงงๆ ส่วนสำนวนที่่อยากรู้ตอนนั้นมากๆคือ คำว่าคลานเป็นวงกลมเเล้วอ้อมกลับมาอีกด้าน เเล้วก็คำว่าคลานเเบบเร็วๆก็นึกไม่ออก มีการใช้คำว่า走るไป ซึ่งรู้สึกกากมาก จำหน้าเพื่อนตอนนั้นที่ฟังทีไร เเล้วรู้สึกฮาทุกที เพราะจำได้ว่าเพื่อนรู้สึกทึ่งมากที่เด็กทารกลุกขึ้นมาวิ่งได้ ฮ่าาา เเล้วตอนนั้นก็รู้สึกว่าใช้ tense มั่วไปหมดเลยค่ะ ไม่รู้ตรงไหนควรใช้อดีต ตรงไหนปัจจุบัน อีกทั้งเนื้อเรื่องก็จบอย่างห้วนๆ ไม่มีการสรุปใดๆทั้งสิ้น อย่าว่าเเต่เพื่อนที่ฟัง งง เลยค่ะ ตัวคนเล่า げるげる เองก็ งง  เหมือนกัน ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ฮ่าา หลังจากที่เล่าเรื่องจบไปก็ทำให้ตระหนักได้ว่า ทักษะการเล่าเรื่องของตัวเองย่ำเเย่มากๆเลยค่ะ รู้สึกต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน ก็ติดตามบทความหน้านะคะ ว่าปรับปรุงเเล้วจะออกมาเป็นอย่างไร เจอกันเร็วๆนี้ค่าา จ๊วฟฟฟ